4 สิงหาคม 2568

เจาะลึก Supply Fulfillment: ระบบหลังบ้านที่ธุรกิจยุคใหม่ขาดไม่ได้

การทำงานของระบบ Supply Fulfillment ตั้งแต่คาดการณ์คำสั่งซื้อจนถึงส่งสินค้า

มากกว่ากลยุทธ์ทางการตลาดและการบริการหลังการขายที่ดี สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคงหนีไม่พ้น ”ระบบหลังบ้าน” ที่สามารถรองรับและจัดการสินค้า ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ

บทความนี้จะพาคุณไปเข้าใจว่า Supply Fulfillment ทำงานอย่างไรและสามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณอย่างไรได้บ้าง

Supply Fulfillment คืออะไร ?

Supply Fulfillment หรือ การเติมเต็ม/การจัดหาสินค้าให้เพียงพอ คือ กระบวนการที่ทำให้สินค้าและบริการ ไปถึงมือลูกค้าได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ถือเป็นบทบาทสำคัญในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและเครื่องมือในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้

1. การวางแผนความต้องการของสินค้า (Demand Planning): คือ การวิเคราะห์และคาดการณ์ความต้องการสินค้าให้เหมาะสมและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า โดยวิเคราะห์จากข้อมูลในอดีต แผนการขาย และการตลาดในอนาคต พร้อมกับสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยภายนอก เช่น ภัยธรรมชาติ โรคระบาด

2. การจัดซื้อและการผลิต (Procurement & Production): คือ การวางแผนจัดหาวัตถุดิบและผลิตสินค้าให้ตรงตามปริมาณและเวลาที่ต้องการ ทำให้สามารถส่งมอบสินค้าให้ได้ทันเวลา ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ ต้องมีการวางแผนและประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมประเด็นสำคัญดังนี้

  • การเลือกและบริหารจัดการซัพพลายเออร์: คัดเลือกซัพพลายเออร์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ
  • การวางแผนกำลังการผลิต: โดยคำนึงถึงกำลังคน เครื่องจักร เวลาการผลิต ประกอบกับการควบคุมต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  • การควบคุมคุณภาพ: กำหนดมาตรฐานการควบคุมคุณภาพตั้งแต่รับวัตถุดิบ การผลิต ไปจนถึงสินค้าสำเร็จรูป เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้ามีคุณภาพ

3. การบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory Management): คือ การบริหารจัดการจำนวนสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดย

  1. กำหนดระดับสินค้าคงคลังที่เหมาะสม: คำนวณปริมาณสินค้าที่ควรมีในคลัง โดยคำนึงจาก
    • Forecast Accuracy: ความแม่นยำในการพยากรณ์ยอดขายล่วงหน้า
    • Output Reliability: ความแม่นยำในการได้รับสินค้าจากการผลิตตามแผนงาน
    • Service Level: ความสามารถในการส่งมอบสินค้า ตรงกับปริมาณและวันที่ลูกค้าต้องการ เช่น service level 100% คือ ลูกค้าได้รับปริมาณสินค้าตรงตามวันที่ต้องการทั้งหมด
    • Lead Time: ระยะเวลาในการเตรียมสินค้าให้พร้อมส่งมอบ
  2. ตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลสินค้าคงคลัง: ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลการรับ-จ่ายและคืนสินค้า เพื่อให้ข้อมูลจำนวนสินค้า batch ผลิต ที่อยู่ในคลังและในระบบตรงกัน

4. การดำเนินการจัดส่ง (Order Fulfillment): การดำเนินการจัดส่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย ในการส่งมอบสินค้าถึงลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจ หลังจากได้รับคำสั่งซื้อ (PO) จากทางลูกค้า จะมีการบริหารจัดการดังนี้

  • จัดเก็บสินค้าในคลังให้เป็นระเบียบและง่ายต่อการเข้าถึง เพื่อให้พนักงานหยิบสินค้าได้รวดเร็วและถูกต้อง โดยมีการนำเครื่องมือมาช่วยเพื่อเพิ่มความแม่นยำ
  • กำหนดเส้นทางการจัดส่งที่เหมาะสมที่สุด เพื่อลดระยะทาง เวลา และต้นทุนเชื้อเพลิง รวมถึงเลือกประเภทรถขนส่งให้เหมาะสมกับปริมาณและชนิดของสินค้า
  • บริหารจัดการต้นทุนค่าขนส่ง วิเคราะห์และควบคุมต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งอย่างรอบด้าน (เช่น ค่าเชื้อเพลิง บำรุงรักษายานพาหนะ ค่าแรง) เพื่อให้การจัดส่งประหยัดและมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • ติดตามและประเมินผลการจัดส่ง โดยใช้ระบบติดตามการจัดส่งแบบเรียลไทม์ (Tracking System) เพื่อตรวจสอบสถานะสินค้าตลอดเส้นทาง (ความตรงต่อเวลา ความเสียหาย) เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงกระบวนการในอนาคต

นอกจากการทำงานตามหลักของ Supply Fulfillment แล้ว ยังมีอีกหนึ่งกระบวนการที่ช่วยในการบริหารสินค้าคงคลังให้มีสินค้าเพียงพอต่อการขายหรืออยู่ในระดับที่เหมาะสมนั่นก็คือ การบริหารสินค้าคงคลังแบบ Vendor Managed Inventory (VMI) หรือการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง ที่เป็นการร่วมมือกันของผู้จัดจำหน่ายและตัวแทนจำหน่าย โดยแบ่งหน้าที่ออกเป็น 2 ฝั่งดังนี้

1. ผู้ขาย (ผู้จัดจำหน่าย) เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารระดับสินค้าคงคลังให้แก่ลูกค้า ให้มีสินค้าเพียงพอต่อการขายหรืออยู่ในระดับที่เหมาะสมตามที่ตกลงไว้ โดยผู้ขายสามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้าคงคลังของลูกค้าได้และต้องได้รับการยินยอมจากลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ายินยอมเติมสินค้าในคลังและดำเนินการสั่งซื้อสินค้า

2. ลูกค้า (ตัวแทนจำหน่าย) เป็นผู้ว่าจ้างที่กำหนดเป้าหมาย ทิศทางการขาย และนโยบายการจัดเก็บสินค้า เพื่อให้ผู้ขายใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนเติมสินค้า

หัวใจสำคัญของ Vendor Managed Inventory คือมีสินค้าเพียงพอต่อการขาย ไม่มีสินค้าขาด ลดการสูญเสียโอกาสการขาย โดยรักษาระดับสินค้าให้สอดคล้องกับแผนขายให้มากที่สุด

หากหากธุรกิจมี Supply Fulfillment ที่แข็งแกร่ง ธุรกิจไม่ต้องนั่งแก้ปัญหาซ้ำ ๆ พร้อมก้าวเป็นหัวแถวอย่างมั่นใจ

“BRS เราเป็นให้คุณมากกว่าแค่ Supply Chain Solutions Provider”

สนใจติดต่อสินค้า/บริการ ได้ที่ brs-group.com

Tel: 1439

#BRS #BoonRawdSupplyChain #TotalSupplyChainSolutions #Empoweryourbusiness #สปีดได้ไวสเกลได้ไกล #RiskManagement